วันก่อนษิลองเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับไขมันหน้าท้องอย่างจริงจังดูค่ะ อ่านไปหลายบทความ ดูไปหลายวีดีโออยู่เหมือนกัน สรุปแล้วก็ได้ข้อมูลบางอย่างมา ที่ตรงกับหลายๆแหล่งว่า เจ้าไขมันที่ท้องน้อย หรือว่าอาการป่องของท้องน้อยเนี้ย มีปัจจัยหลักๆของมันอยู่ แต่ที่น่าตกใจคือ ไม่อยากเชื่อว่าเหตุผลง่ายๆแค่นี้ก็ทำให้ท้องเราป่องบวมได้เลยหรอ? ขอบอกล่วงหน้าก่อนนะคะว่า อาการท้องป่อง หรือว่ามีไขมันสะสมที่ท้องน้อยในบทความนี้ เป็นอาการเฉพาะกลุ่มคนที่มีรูปร่างผอมโดยทั่วตัว แต่มีแค่ส่วนพุงที่ยื่นออกมาค่ะ เพราะฉะนั้นคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือว่ามีไขมันทั่วตัวโดยรวมแล้ว ข้อมูลอาจจะไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ เอาเป็นว่าษิสรุปมาให้สั้นๆ ลองอ่านดูนะคะว่าแต่ละข้อตรงกับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ไหม
ความเครียด Cortisol
ไม่น่าเชื่อว่าความเครียดส่งผลให้ท้องป่องได้ เพราะความเครียดทำให้สาร Cortisol หรือฮอร์โมนที่ช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อความเครียด เพิ่มสูงขึ้น และทำให้ไขมันไปสะสมอยู่ที่บริเวณหน้าท้องได้มากขึ้นอีกด้วย นัยว่ายิ่งเครียดยิ่งพองนั้นเอง
ทางแก้: เราควรเรียนรู้การจัดการความเครียดของตัวเองให้ได้นะคะ แต่ละคนมีความอ่อนไหวต่อความเครียดไม่เหมือนกัน อย่างษิเองจะชอบย้ำคิดย้ำทำ ต้องทำงานให้ออกมาเนี๊ยบ เพอร์เฟคไปทุกขั้นตอน เลยทำให้เครียดง่าย วิธีแก้ก็คือ การกระตุ้นให้สมองส่วนหน้า หรือที่เรียกว่า prefrontal cortex แข็งแรง และสามารถจับอารมณ์ความรู้สึกได้ไว ไม่ปล่อยจิตปล่อยใจให้ไหลไปกับความคิดด้านลบนานๆ จะได้ไม่เผลอคิดมากและเครียดไปเอง หรือถ้าพูดภาษาชาวพุทธก็คือ การฝึกให้เรามีสติที่แข็งแรง รู้ทันอารมณ์ตัวเองค่ะ วิธีฝึกที่ง่ายที่สุด ก็คือการนั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ ดูความคิดตัวเองไป เหมือนเราเป็นแค่คนดูที่เข้าไปนั่งอยู่ขอบเวที ปล่อยให้ความคิดเขาแสดงเต็มที่ จุดสำคัญคือ พอเรารู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ และจิตหลุดไปกับความคิด ให้ดึงกลับมาที่ลมหายใจทันทีค่ะ การทำแบบนี้คือการฝึกให้จิตเรามั่นคง ไม่วอกแวก และฝึกสติให้แข็งแรง ไม่ไหลไปกับอารมณ์ง่ายเกินไป
2.Insulin (sugar and carb )
ฮอร์โมนอีกตัวที่ทำให้มีไขมันสะสมบริเวณท้องน้อยก็คือ Insulin หรือภาวะดื้ออินซูลินของร่างากาย ที่อวัยวะภายในไม่ยอมรับน้ำตาลเข้ามาใช้ ทำให้ร่างกายโหยแป้งและน้ำตาล จนต้องเกินเพิ่มเข้าไป และยังเป็นภาวะเสี่ยงก่อนเกิดโรคเบาหวานอีกด้วย สาเหตุของการเกิดภาวะที่ร่างกายดื้ออินซุลินยังไม่แน่ชัดว่ามันคืออะไร แต่ถ้าให้ษิวิเคราะห์จากประสบการณ์ของตัวเอง ก็คือการกินอาหารเช้าที่มีโปรตีนน้อยเกินไป ทำให้ระดับน้ำตาลไม่คงที่ เหวี่ยงขึ้นและลงตลอดวัน
ทางแก้: ทางที่ดีควรกินอาหารเช้าที่มีโปรตีนด้วย เช่นไข่ต้ม ถั่ว เต้าหู้ หรือว่าจะเป็นนมอัลมอนด์ก็ได้ค่ะ
3.การนั่งนาน
ปัจจุบันนี้้ไม่ว่าจะเป็นงานออฟฟิศ หรือว่างานฟรีแลนซ์ ก็ต้องนั่งหน้าจอคอมเกือบหมดใช่ไหมคะ? แล้วก็นั่งเป็นเวลานานๆด้วย การนั่งนานๆก็ทำให้ร่างกายขาดความกระตือรือร้น ไขมันหรือพลังงานก็ไม่ได้เอาไปใช้มาก ทำให้เกิดการสะสมขึ้นเป็นธรรมดา
ทางแก้: ทางที่ดีเราควรตั้งเวลาเอาไว้ในมือถือ หรือหานาฬิกาจับเวลามาวางเอาไว้เลยว่าจะนั่งนานแค่ไหน อย่างษิเองจะใช้นาฬิกาจับเวลาสำหรับทำอาหาร ประมาณ 30 นาทีแล้วลุกยืน บางทีก็เดินออกไปเข้าห้องน้ำ ทำอย่างอื่น บางที่ก็ยืนพิมพ์งานต่อ ถ้าอยากให้งานเสร็จจริงๆนะคะ
