top of page

อยากเป็นครูโยคะต้องทำยังไง?

อัปเดตเมื่อ 6 ก.ค. 2561




มาค่ะ วันนี้ษิจะรีวิวคอร์สครูโยคะที่เคยไปเรียนมา และบอกวิธีเตรียมตัวสำหรับสาวๆว่าที่ครูสอนโยคะกันค่ะ

ขอเกริ่นด้วยประสบการณ์ของตัวเองก่อนนะคะ ษิเรียนจบหลักสูตร ครูโยคะ 2 ภาษา 200 ชั่วโมงจากสถาบันบางกอกโยคะ (หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อสถาบันนี้มาแล้วนะคะ) หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Bilingual Yoga Teacher Trainnig 200h. ษิเริ่มเรียนประมาณเดือนเมษายนปี 2010 หรือกว่า 8 ปีมาแล้ว ถือว่าเป็นครูสอนโยคะที่อายุน้อยที่สุดตอนนั้นก็ว่าได้ค่ะ (อายุ 19 ปี) โดยใช้เวลาเรียนประมาณ 6 เดือนค่ะ แล้วก็ได้เข้าเรียนต่ออีกทีในปี 2013 กับโรงเรียนสอนครูโยคะระดับสากลที่เกาะสมุย ชื่อ Vikasa Yoga เป็นระยะเวลา 1 เดือน แต่เป็น 1 เดือนแห่งความประทับใจที่ไม่รู้ลืมจริงๆค่ะ อยากรู้ว่าประทับใจอะไรบ้าง อ่านกันต่อนะคะ



เตรียมตัวก่อนสมัครเรียน

สิ่งที่สาวๆควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสมัครเรียนกับสถาบันใดๆเลยก็คือ ประสบการณ์ในการฝึกค่ะ! บางสถาบันมีกำหนดให้ผู้เรียนต้องมีประสบการณ์ในการฝึกโยคะอย่างน้อยที่สุด 1 ปี หมายความว่า เราต้องได้ฝึกโยคะทุกวัน เป็นเวลา 1 ปีก่อนสมัครเรียนนะคะ เพื่อให้เรามีพื้นฐาน และสามารถเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นค่ะ

บางสถาบันก็มีข้อกำหนดให้ผู้เรียน ต้องสามารถทำท่ากลับบนลงล่าง อย่างท่ายืนด้วยศรีษะ ให้ได้ก่อน ถึงจะเข้าเรียนได้ก็มีค่ะ นัยว่าคนที่ทำท่านี้ได้ แสดงว่าต้องผ่านการฝึกมาพอสมควรทีเดียว

ถ้าษิจะให้คำแนะนำส่วนตัวกับคนที่ต้องการเรียนคอร์สครูจริงๆ ก็จะออกมามีประมาณนี้ค่ะ

  • ลงเรียนโยคะกับสตูดิโอ ที่สอนแต่โยคะจริงๆ ไม่มีฟิตเนส เต้นซุมบ้า ต่อยมวย มาปน เรียนให้ได้ครบ 1 ปีก่อน แล้วมาถามตัวเองอีกทีว่า ชอบโยคะมากแค่ไหน อินแค่ไหนกับโยคะ?

  • ระหว่างที่เรียน หาข้อมูลเพิ่มเติมว่า โยคะมีกี่ประเภทกันนะ แล้วลองไปเรียนกับสตูที่สอนโยคะสไตล์นั้นๆเลยค่ะ เพื่อดูว่าเราเหมาะกับการฝึกแบบไหน อย่าลืมว่าการฝึกในสไตล์ที่เราชอบ จะทำให้เราไปได้ไกล และขยันฝึกไม่มีเบื่อนะคะ

  • พยายามจำท่าโยคะเป็นภาษาสันสกฤตให้ได้ค่ะ เพราะภาษาสันสกฤต ถือเป็นภาษาสากลในโลกของโยคะค่ะ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษนั้น เป็นเพียงภาษารอง จำภาษาสันสกฤตให้ได้ไปเลย 1 ภาษา ทีเดียวจบค่ะ เวลาลงเรียนแล้วจะได้ไม่งงค่ะ

  • ท่าสำคัญที่ควรฝึกให้ได้ดี ก่อนลงเรียนคอร์สครูก็มีอยู่หลักๆประมาณ 3 ท่า นั้นก็คือ

  • ท่า จตุรางคะ หรือว่าท่าที่คล้ายๆกับการวิดพื้นค่ะ เพราะไม่ว่าจะฝึกยคะสไตล์ไหน ก็ต้องเจอท่านี้แน่นอนค่ะ สาวๆสามารถดู เทคนิคเข้าท่าจตุรางคะ ได้ที่นี้เลยค่ะ

  • ท่า ปัจจิโมตานาสนะ เป็นท่ายืดขา แล้วพับตัวไปข้างหน้า ที่อยากให้ฝึกเพราะท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อ psoas (อ่านว่า โซ-แอซ) กล้ามเนื้อตั้งแต่ใต้ก้นไปจนถึงน่อง ซึ่งเวลาเราฝึกโยคะสไตล์ไหนๆ ก็ต้องเจอท่าที่ใช้กล้ามเนื้อส่วนนี้ค่ะ

เทคนิคกเข้าท่า ปัจจิโมตานาสนะ

  • สุดท้ายคือการฝึกท่าที่ช่วยให้มีกำลังขาที่แข็งแรงขึ้น อย่างท่านักรบทั้งสามท่า (นักรบ 1 นักรบ 2 และนักรบ 3 ) พยายามหาตำแหน่งในการวางเท้าของตัวเอง ในท่าเหล่านี้ให้ได้นะคะ บางคนอาจกางขาได้น้อย แต่ขอให้วางตำแหน่งเท้าได้ถูกก็พอค่ะ ท่าเหล่านี้จะเป็นท่าเชื่อมในหลายๆกระบวนท่าอีกด้วยค่ะ



หลักในการเลือกโรงเรียน ถูกและดี มีจริงไหม?!

เมื่อครบ 1 ปีแล้วเรารู้ว่าเราชอบโยคะจริงๆ และชอบโยคะแนวไหน ทีนี้เราก็มาดูโรงเรียนสอนครูโยคะที่เหมาะกับเรากันค่ะ โดยษิอยากให้สาวๆคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เป็นอันดับต้นๆในการเลือกโรงเรียนค่ะ

  • มาตรฐานของโรงเรียน โรงเรียนที่ได้รับการรับรองย่อมดีกว่าโรงเรียนที่ราคาถูกแน่นอนค่ะ เพราะนี้เป็นหนึ่งในหลักประกันว่าเราจะไม่เสียเงินฟรี และเราจะได้เรียนกับครูที่รู้จริง ไม่มั่วนิ่มเนอะ ซึ่งโรงเรียนที่ได้รับรองมารตฐานนั้นต้องลงทะเบียนกับ Yoga Allience (โยคะ อลายอันซ์) ถามโรงเรียนไปตรงๆเลยค่ะว่าได้ขึ้นทะเบียนกับโยคะอลายอันซ์หรือเปล่า

  • หลักสูตรที่ได้มารตฐาน ต้องมีแผนการเรียนให้เราดูได้อย่างชัดเจน มาตรฐานของหลักสูตรครูโยคะเบื่องต้นควรจะเป็น RYS 200 (Yoga Registered School 200) ซึ่งหลักๆแล้ว ควรจะประกอบไปด้วย 5 ส่วนด้วยกัน คือ

1.เทคนิค และการฝึก 100 ชั่วโมง

2.หลักการสอน 25 ชั่วโมง

3.กายวิภาคศาสรต์และสรีรวิทยา 20 ชั่วโมง

4.ปรัชญาโยคะ การดำเนินชีวิตวิถีโยคะ และหลักจริยธรรมโยคะ 30 ชั่วโมง

5.การฝึกสอน 10 ชั่วโมง

อีก 10 ชั่วโมงที่เหลือโรงเรียนควรเพิ่มลงไปในแต่ละส่วนให้ครบ 200 ชั่วโมง อาจจะเพิ่มในส่วน

ของการฝึกสอน หรือเพิ่มการเรียนจัดปรับท่าให้นักเรียนก็ได้ค่ะ (adj