ต้องเรียนนานแค่ไหน กว่าจะไปเรียนคอร์สครูได้? ควรเลือกเรียน 200 หรือ 300 ชม.ดี? ทำท่ายากไม่ได้ เรียนคอร์สครูได้ไหม? เรียนที่ไหนดีที่สุด? คุ้มไหมกับการลงทุนไปเรียนคอร์สครู? เหล่านี้คือ 5 คำถามที่ษิได้ยินบ่อยที่สุด จากว่าที่ครูสอนโยคะในกลุ่มจากการให้สัมภาษณ์ ลองอ่านคำตอบที่ษิได้ตอบว่าที่ครูสอนโยคะดูนะคะว่าช่วยให้หายกังวลขึ้นบ้างไหม
ต้องฝีกนานแค่ไหน กว่าจะไปเรียนคอร์สครูได้?
ในบางสถาบันหรือโรงเรียนสอนโยคะ กำหนดว่าผู้ที่จะเข้าเรียนคอร์สครูสอนโยคะได้นั้น ต้องฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอติดต่อกัน เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี และต้องสามารถทำท่าแฮดสแตนด์ หรือที่เรียกว่า ท่ายืนด้วยศรีษะได้ ถึงจะสามารถเข้าเรียนคอร์สครูโยคะได้ค่ะ แต่ษิจะบอกความลับอะไรให้ฟังค่ะ มาตรฐานเหล่านี้มีขึ้นมา เพื่อวัดความมุ่งมั่น ความสม่ำเสมอของเราคร่าวๆ ว่าเราจริงจังกับโยคะแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญคือ คำตอบของตัวเราเอง ว่าทำไมเราถึงอยากเรียนคอร์สครูโยคะ? เราอยากเรียนเพื่อไปทำอะไรต่อ? เป้าหมายในการเรียนคอร์สครูโยคะสำหรับเราคืออะไร? เพราะฉะนั้นแล้ว ระยะเวลาในการฝึก่อนที่จะไปเรียน ไม่สำคัญเท่าเป้าหมายเราค่ะ แต่ถ้าเป็นไปได้ เราควรฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอ จนทำให้เกิดผลลัพธ์บางอย่าง ที่ทำให้เราหลงรัก หรือศรัธาในศาตร์นี้ ก่อนที่จะไปเรียนคอร์สครูค่ะ
ระยะเวลาในการฝึก่อนที่จะไปเรียน ไม่สำคัญเท่าเป้าหมายเรา
ควรเลือกเรียน 200 หรือ 300 ชม?
สำหรับใครที่ได้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมมาบ้างแล้ว อาจจะผ่านตาคำว่า 200 Hour Certification และ 300 hour certification มาบ้างแล้วนะคะ สำหรับ 200 Hour Certification ที่รับรองโดย Yoga Alliance หรือองค์กรรับรองมาตรฐานการเรียนคอร์สครูโยคะจากสหรัฐอเมริกา ได้อธิบายเอาไว้ว่า 200 Hour Certification คือ คอร์สอบรมครูสอนโยคะขั้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรองจาก Yoga Alliance ส่วน 300 Hour Certification คือคอร์สอบรมครูสอนโยคะขั้นสูง ที่ได้รับการรับรองจาก Yoga Alliance เช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่เคยเรียนเลย ก็ควรที่จะเลือก 200 Hour Certification เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นค่ะ
ทั้งนี้ มีหลายคนสอบถามมา เมื่อเห็นว่มีการเปิดอบรม 50 Hour Certification หรือ 100 Hour Certification บ้างละ ว่าสามาถเรียนคอร์สเหล่านี้เพื่อเป็นพื้นฐานได้หรือไม่ ขอตอบว่าได้ค่ะ แต่คอร์สที่มีชั่วโมงต่ำกว่า 200 ชั่วโมง จะไม่นับว่าเป็นการอบรมครูสอนโยคะอย่างเต็มรูปแบบจาก Yoga Alliance ค่ะ ส่วนใหญ่แล้วคอร์สเหล่านี้ จะเป็นการเรียนต่อ หรือเป็นหัวข้อย่อยจากการอบรมครูที่เป็นมาตรฐานค่ะ
เพราะฉะนั้นแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่เคยเรียนเลย ก็ควรที่จะเลือก 200 Hour Certification
เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นค่ะ
ทำท่ายากไม่ได้ เรียนคอร์สครูได้ไหม?
ต้องนิยามคำว่าท่ายากก่อน ว่าท่า ‘ท่ายาก’ หมายถึงท่าอะไร? ส่วนใหญ่ที่เราเห็นกัน จะเป็นท่าที่ต้องใช้มือ ใช้แขนในการบาลานซ์น้ำหนักแทนขา เช่น handstand (ท่ายืนด้วยมือ) ท่า headstand (ท่ายืนด้วยศรีษะ) ซึ่งท่าเหล่านี้ ต้องใช้เวลาฝึกฝนพอสมควร แต่ไม่ใช่คุณสมบัติ ที่ต้องมีเพื่อให้ได้ไปเรียนคอร์สครู เพราะฉะนั้นแล้ว หากยังทำท่าเหล่านี้ไม่ได้ ก็สามารถเข้าเรียนคอร์สครุได้ค่ะ ไม่ได้มีกฏเกณฑ์มาห้ามไว้ ซึ่งท่าเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วจะมีการสอนในคอร์สครูด้วยซ้ำไป สิ่งสำคัญคือเราไปเรียนคอร์สครู เพื่อให้รู้หลักการในการสอนโยคะให้ปลอดภัยกับผู้ฝึก และเข้าถึงคำว่าโยคะจริงๆต่างหากค่ะ
สิ่งสำคัญคือเราไปเรียนคอร์สครู เพื่อให้รู้หลักการในการสอนโยคะให้ปลอดภัยกับผู้ฝึก
และเข้าถึงคำว่าโยคะจริงๆต่างหากค่ะ
เรียนที่ไหนดีที่สุด?
คำถามนี้แอบตอบยากอยู่ค่ะ เพราะแต่ละคนก็มีเป้าหมาย และสไตล์ที่ชอบแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเวลาเจอคำถามนี้ ษิมักจะให้นักเรียนสำรวจตัวเองดูก่อนเลย ว่าชอบโยคะสไตล์ไหน แล้วหาโรงเรียนที่สอนแนวนั้น หรือหาในยูทูป แล้วลองฝึกตามดู หรือไปเข้าเรียนในคลาสปกติของโรงเรียนนั้นๆดูเลยค่ะ จะได้รู้ว่าชอบสไตล์โยคะแบบนี้จริงไหม แล้วก็ลองทำควิซ แบบสอบถามทายใจ เพื่อให้เราได้รู้จักตัวเอง และสไตล์โยคะที่ชอบผ่านทางลิงค์นี้ดูได้เลยค่ะ ทำเสร็จแล้วส่งข้อความมาหาษิที่เพจ Luxsica Yoga เพื่อขอคำตอบได้เลยค่ะ
ลิงค์ทำแบบสอบถามทายใจ
คุ้มไหมกับการลงทุนไปเรียนคอร์สครู?
ถ้าจะเรียนเพื่อไปต่อยอดอาชีพ หรือเปลี่ยนอาชีพอย่างจริงจัง ษิถือว่าคุ้มค่าค่ะ แต่ถ้าต้องการเรียนเพื่อรู้จักโยคะให้ลึกขึ้น หรือสามารถสอนตัวเองได้ แนะนำว่าอาจจะลงเรียนเวิร์คช๊อประยะเวลา 1-2 ไปก่อน เพื่อเก็บสะสมความรู้ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา พร้อมจ่ายและต้องการประสบการณ์ หรือต้องการลองทำอะไรใหม่ๆที่ท้าทายดู จัดไปค่ะ!
แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา พร้อมจ่ายและต้องการประสบการณ์ หรือต้องการลองทำอะไรใหม่ๆ
ที่ท้าทายดู จัดไปค่ะ!
แล้วผู้อ่านละคะ มีคำถามในใจอะไรอีกบ้างที่ษิไม่ได้เขียนคำตอบเอาไว้ให้? ถ้ายังมีคำถามอยู่ สามารถส่งข้อความมาที่เพจ Luxsica Yoga เพื่อปรึกษาได้เลยค่ะ โดยการปรึกษาจะอยู่ในส่วนของการสัมภาษณ์ เพื่อการเก็บข้อมูลทำวิจัยของษิ *ไม่มีการเสนอขายสินค้า หรือบริการใดๆระหว่างสัมภาษณ์และปรึกษาทั้งสิ้นค่ะ*