top of page

International Yoga Day และทำไมษิจะไม่เปิดสตูดิโออีก (ในเร็วๆนี้)

Happy International Yoga Day !

และทำไมษิจะไม่เปิดสตูดิโอโยคะเป็นของตัวเองอีกในเร็วๆ นี้ !

.

21 มิถุนยายนคือวันครบรอบ

ที่ษิเปิดสตูดิโอโยคะแรกและสตูสุดท้ายของตัวเองค่ะ

แหนะๆ ไม่มีอะไรต้องเศร้าค่ะ

วันนี้แค่อยากมาแชร์ให้ฟัง

จากประสบการณ์ตรงที่เคยเปิดสตูดิโอโยคะเป็นของตัวเองค่ะ

เพื่อเป็นไอเดียให้กับครูโยคะ

หรือใครก็ตามที่อยากเปิดสตูดิโอโยคะของตัวเองค่ะ

.

ย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว

การเปิดสตูดิโอโยคะเป็นของตัวเองนั้น

เหมือนกับเป็นสิ่งที่ครูโยคะทุกคนควรทำเลยก็ว่าได้

ษิก็เป็นหนึ่งในนั้น

อาจจะโชคดีหน่อยที่ที่บ้าน

พอจะมีพื้นที่ให้ได้เปิดสอนได้เลย

และโลเคชั่นก็อยู่ใกล้จุดสำคัญของกทม.หลายจุด

ทำให้ตอนที่เปิดสตู

ษิมีนักเรียนเข้ามาเรียนเรื่อยๆ

แม้ว่าจะเปิดเป็นคลาสเล็กๆ ไม่เกิน 3 คนก็ตามค่ะ

และมีรายได้ที่มากพอให้อยู่ได้

จากการสอน 2-3 คลาสต่อวัน

สัปดาห์หนึ่งเปิดสอนประมาณ 4-5 วัน

ฟังดูดีใช่ไหมคะ?

แล้วอะไรที่ทำให้ษิบอกว่า

ถ้าเลือกได้ ษิจะไม่กลับไปเปิดสตูดิโอเป็นของตัวเองอีกหนอ?

จริงๆ เป็นเพราะ 2 คำนี้เลยค่ะ

อิสระภาพ และ ความรับผิดชอบค่ะ

จะมีใครรู้บ้างว่า

การมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง

ครูสอนโยคะตัวเล็กๆ อย่างเรา

ต้องทำอะไรบ้าง

ก่อนนักเรียนจะมา

หลังนักเรียนกลับไปแล้ว

ถ้านักเรียนมาก่อนเวลา

แล้วห้องยังไม่พร้อมละ?

หรือนักเรียนอยู่คุยกันหลังเลิกคลาสเป็นชั่วโมงละ?

ครูอย่างเรา ที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียว

ต้องจัดการกับอะไรบ้าง?

เราไม่ใช่แค่ครูโยคะ

แต่เรากลายเป็นแม่บ้าน

คนโบกรถ

คนขัดห้องน้ำ

คนเตรียมอาหารว่างและน้ำ

ฯลฯ

.

พอจะเห็นภาพคร่าวๆ

โดยที่ษิไม่ต้องลงรายละเอียดไหมคะว่า

แต่ละวัน กว่าจะได้สอนโยคะ

ษิต้องทำอะไรบ้าง?

และคำว่าอิสรภาพ

ษิรู้ดีว่าตัวเองอยากอยู่ในพื้นที่ท่ามกลางธรรมชาติ

ให้พูดตรงๆ ก็คือชอบความสันโดด

แล้วความสันโดนที่ดี

ก็มักจะมากับความห่างไกลชุมชน

เพราะฉะนั้นการเปิดสตูดิโอโยคะที่ห่างไกลชุมชน

ก็น่าจะไม่ใช่คำตอบที่ดีสำหรับสตูดิโอโยคะใช่ไหมคะ?

(เว้นเสียแต่ว่า คุณจะเปิดเป็นรีทรีต

หรือเวิร์คช๊อปอะนะ ซึ่งอันนี้ก็ดีไปอีกแบบ

และเป็นแบบที่ษิเลือกจะทำในปีนี้ค่ะ

ดูสิว่าจะบันเทิงเท่ากับการมีสตูดิโอเป็นของตัวเองไหมนะคะ

รอติดตามได้เลยค่ะ 5555)

.

ปัจจุบันษิตื่นมา 7 โมงอย่างช้าสุด

แล้วเตรียมตัวประมาณ 20 นาที

ก่อนไปปูเสื่อโยคะ

รอนักเรียนที่จะเข้าเรียนตอน 8 โมงเช้า

ผ่านวีดีโอคอล zoom

หรือที่เรียกว่าการเรียนโยคะสดออนไลน์นั่นแหละค่ะ

ษิใช้เวลาเตรียมตัว

และสอนเสร็จประมาณชั่วโมงครึ่ง

โดยที่ไม่ต้องมานั่งล้างห้องน้ำ

เก็บบ้าน

หรือรอเป็นชั่วโมงให้นักเรียนกลับออกไป

บอกเลยว่าชีวิตมีเวลาเยอะขึ้นมาก

เบาขึ้นมาก

.

ตัวนักเรียนเองก็ได้อิสระไม่แพ้กัน

ษิได้ไปกับนักเรียนทุกที่

เพราะเราไม่มีข้ออ้างเรื่องโลเคชั่นอีกต่อไป

ษิได้สอนคลาสโยคะที่มีฉากหลังเป็น

ยอดดอยแม่กำปอง

โยคะบนชายหาดอ่าวนาง กระบี่

โยคะบนชานบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา

โยคะที่มีฉากหลังเป็นหิมะของประเทศแคนนาดา

you name it

หรือที่เจอบ่อยสุดก็คือ

โยคะจากในห้องนอน

ที่ก็ต้องชื่นชมนักเรียนว่า

สามารถจัดเวลา

และจัดพื้นที่มาเรียนได้อย่างลงตัว

ถ้าใจคนมันจะเรียนอะเนอะ

ห้องแคบ ห้องกว้างแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ

.

เอาจริงๆ ษิชื่นชม

ด้วยความรู้ซึ้งต่อครูโยคะทุกท่านเลยนะ

ที่มีสตูเป็นของตัวเอง

เพราะษิรู้ว่าเขาต้องผ่านอะไรมา

และกำลังต้องทำอะไรอยู่

และมันไม่ง่ายเลยในการสวมหมวกหลายใบนี้

ขอคารวะจากใจค่ะ

.

ษิไม่ได้บอกว่านี้คือวิธีที่ดีที่สุด

หรือทางที่ควรจะเดินตามสำหรับครูสอนโยคะนะคะ

มิบังอาจขนาดนั้นค่ะ

แค่มาแชร์ให้ฟังเฉยๆ ค่ะว่า

นอกจากการมีสตูโยคะเป็นของตัวเองแล้วนั้น

มันยังมีช่องทางอีกมากมายให้เราได้สอนโยคะ

ก็เพราะโลกทั้งใบคือเสื่อโยคะของเราอยู่แล้ว

อยู่ที่ว่า

เรารู้ใจตัวเองไหม

ว่าเราอยากอยู่กับเสื่อโยคะแบบไหนกันคะ?

 
 
 

Comments


  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram

LUXSICA YOGA & BEYOND ONLINE YOGA STUDIO

bottom of page