International Yoga Day และทำไมษิจะไม่เปิดสตูดิโออีก (ในเร็วๆนี้)
- Luxsica Priyavoravong
- 21 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที

Happy International Yoga Day !
และทำไมษิจะไม่เปิดสตูดิโอโยคะเป็นของตัวเองอีกในเร็วๆ นี้ !
.
21 มิถุนยายนคือวันครบรอบ
ที่ษิเปิดสตูดิโอโยคะแรกและสตูสุดท้ายของตัวเองค่ะ
แหนะๆ ไม่มีอะไรต้องเศร้าค่ะ
วันนี้แค่อยากมาแชร์ให้ฟัง
จากประสบการณ์ตรงที่เคยเปิดสตูดิโอโยคะเป็นของตัวเองค่ะ
เพื่อเป็นไอเดียให้กับครูโยคะ
หรือใครก็ตามที่อยากเปิดสตูดิโอโยคะของตัวเองค่ะ
.
ย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว
การเปิดสตูดิโอโยคะเป็นของตัวเองนั้น
เหมือนกับเป็นสิ่งที่ครูโยคะทุกคนควรทำเลยก็ว่าได้
ษิก็เป็นหนึ่งในนั้น
อาจจะโชคดีหน่อยที่ที่บ้าน
พอจะมีพื้นที่ให้ได้เปิดสอนได้เลย
และโลเคชั่นก็อยู่ใกล้จุดสำคัญของกทม.หลายจุด
ทำให้ตอนที่เปิดสตู
ษิมีนักเรียนเข้ามาเรียนเรื่อยๆ
แม้ว่าจะเปิดเป็นคลาสเล็กๆ ไม่เกิน 3 คนก็ตามค่ะ
และมีรายได้ที่มากพอให้อยู่ได้
จากการสอน 2-3 คลาสต่อวัน
สัปดาห์หนึ่งเปิดสอนประมาณ 4-5 วัน
ฟังดูดีใช่ไหมคะ?
แล้วอะไรที่ทำให้ษิบอกว่า
ถ้าเลือกได้ ษิจะไม่กลับไปเปิดสตูดิโอเป็นของตัวเองอีกหนอ?
จริงๆ เป็นเพราะ 2 คำนี้เลยค่ะ
อิสระภาพ และ ความรับผิดชอบค่ะ
จะมีใครรู้บ้างว่า
การมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง
ครูสอนโยคะตัวเล็กๆ อย่างเรา
ต้องทำอะไรบ้าง
ก่อนนักเรียนจะมา
หลังนักเรียนกลับไปแล้ว
ถ้านักเรียนมาก่อนเวลา
แล้วห้องยังไม่พร้อมละ?
หรือนักเรียนอยู่คุยกันหลังเลิกคลาสเป็นชั่วโมงละ?
ครูอย่างเรา ที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียว
ต้องจัดการกับอะไรบ้าง?
เราไม่ใช่แค่ครูโยคะ
แต่เรากลายเป็นแม่บ้าน
คนโบกรถ
คนขัดห้องน้ำ
คนเตรียมอาหารว่างและน้ำ
ฯลฯ
.
พอจะเห็นภาพคร่าวๆ
โดยที่ษิไม่ต้องลงรายละเอียดไหมคะว่า
แต่ละวัน กว่าจะได้สอนโยคะ
ษิต้องทำอะไรบ้าง?
และคำว่าอิสรภาพ
ษิรู้ดีว่าตัวเองอยากอยู่ในพื้นที่ท่ามกลางธรรมชาติ
ให้พูดตรงๆ ก็คือชอบความสันโดด
แล้วความสันโดนที่ดี
ก็มักจะมากับความห่างไกลชุมชน
เพราะฉะนั้นการเปิดสตูดิโอโยคะที่ห่างไกลชุมชน
ก็น่าจะไม่ใช่คำตอบที่ดีสำหรับสตูดิโอโยคะใช่ไหมคะ?
(เว้นเสียแต่ว่า คุณจะเปิดเป็นรีทรีต
หรือเวิร์คช๊อปอะนะ ซึ่งอันนี้ก็ดีไปอีกแบบ
และเป็นแบบที่ษิเลือกจะทำในปีนี้ค่ะ
ดูสิว่าจะบันเทิงเท่ากับการมีสตูดิโอเป็นของตัวเองไหมนะคะ
รอติดตามได้เลยค่ะ 5555)
.
ปัจจุบันษิตื่นมา 7 โมงอย่างช้าสุด
แล้วเตรียมตัวประมาณ 20 นาที
ก่อนไปปูเสื่อโยคะ
รอนักเรียนที่จะเข้าเรียนตอน 8 โมงเช้า
ผ่านวีดีโอคอล zoom
หรือที่เรียกว่าการเรียนโยคะสดออนไลน์นั่นแหละค่ะ
ษิใช้เวลาเตรียมตัว
และสอนเสร็จประมาณชั่วโมงครึ่ง
โดยที่ไม่ต้องมานั่งล้างห้องน้ำ
เก็บบ้าน
หรือรอเป็นชั่วโมงให้นักเรียนกลับออกไป
บอกเลยว่าชีวิตมีเวลาเยอะขึ้นมาก
เบาขึ้นมาก
.
ตัวนักเรียนเองก็ได้อิสระไม่แพ้กัน
ษิได้ไปกับนักเรียนทุกที่
เพราะเราไม่มีข้ออ้างเรื่องโลเคชั่นอีกต่อไป
ษิได้สอนคลาสโยคะที่มีฉากหลังเป็น
ยอดดอยแม่กำปอง
โยคะบนชายหาดอ่าวนาง กระบี่
โยคะบนชานบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา
โยคะที่มีฉากหลังเป็นหิมะของประเทศแคนนาดา
you name it
หรือที่เจอบ่อยสุดก็คือ
โยคะจากในห้องนอน
ที่ก็ต้องชื่นชมนักเรียนว่า
สามารถจัดเวลา
และจัดพื้นที่มาเรียนได้อย่างลงตัว
ถ้าใจคนมันจะเรียนอะเนอะ
ห้องแคบ ห้องกว้างแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ
.
เอาจริงๆ ษิชื่นชม
ด้วยความรู้ซึ้งต่อครูโยคะทุกท่านเลยนะ
ที่มีสตูเป็นของตัวเอง
เพราะษิรู้ว่าเขาต้องผ่านอะไรมา
และกำลังต้องทำอะไรอยู่
และมันไม่ง่ายเลยในการสวมหมวกหลายใบนี้
ขอคารวะจากใจค่ะ
.
ษิไม่ได้บอกว่านี้คือวิธีที่ดีที่สุด
หรือทางที่ควรจะเดินตามสำหรับครูสอนโยคะนะคะ
มิบังอาจขนาดนั้นค่ะ
แค่มาแชร์ให้ฟังเฉยๆ ค่ะว่า
นอกจากการมีสตูโยคะเป็นของตัวเองแล้วนั้น
มันยังมีช่องทางอีกมากมายให้เราได้สอนโยคะ
ก็เพราะโลกทั้งใบคือเสื่อโยคะของเราอยู่แล้ว
อยู่ที่ว่า
เรารู้ใจตัวเองไหม
ว่าเราอยากอยู่กับเสื่อโยคะแบบไหนกันคะ?
Comments