วันก่อนษิเล่าให้นักเรียนฟังถึงสายอาชีพนี้ ว่ามีเส้นทางการเติบโตยังไงบ้าง
ขอเอามาสรุปสั้นๆ ให้ฟังนะคะ สำหรับใครที่มองไม่ออกว่า อาชีพครูสอนโยคะ จะโตในสายงานนี้ได้ยังไง
1.Stage ที่ 1 คือเริ่มสอน จะเริ่มสอนได้ก็ต้องผ่านการอบรมจากในคอร์สครูโยคะ อย่างน้อย 200 ชม.มาก่อน มีประสบการณ์สอนจากการฝึกในคอร์สครูมาจนคล่องพอสมควร แล้วก็เริ่มสอน ไม่ว่าจะเป็นการสอนนักเรียนแบบเดี่ยว แบบกลุ่ม จะทางออนไลน์ หรือ ออนไซต์ก็นับหมดค่ะ ซึ่งรายได้จากการสอนใน stage ที่ 1 นี้ ก็จะเป็นขั้นเริ่มต้น นับตามจำนวนชั่วโมงที่สอน
ษิเริ่มสอนโยคะกลุ่ม / เดี่ยว ที่บ้าน แบบเจอตัวกัน หรือออนไลน์
2. Stage ที่ 2 คือ จาก สเตจแรก เราก็จะได้รู้จักนักเรียนมากขึ้น แปลว่าเริ่มมีคอนเนคชั่น หรือโอกาสในการไปสอนให้กับองค์กร ซึ่งหลายๆ องค์กร ก็จะทำสัญญาว่าจ้าง เป็นรายเดือน หรือรายปี ก็แล้วแต่ ตัวษิเองก็ผ่านสเตจนี้มาเช่นกัน เคยได้รับโอกาสไปสอนตามองค์กรต่างๆ จากการรู้จักคนในองค์กรที่มาเรียนโยคะกับเราแบบส่วนตัวค่ะ
ได้ไปสอนโยคะให้กับองค์กรต่างๆ จากการแนะนำของนักเรียนที่เรียนด้วยกันแบบส่วนตัว
3.Stage ที่ 3 คือ การจัดเวิร์คช๊อป ต้องถามก่อนว่า เวิร์คช๊อปคืออะไร? คือการสอนในรูปแบบที่ให้ผู้เรียนได้ลงมือทำไปด้วย (เช่น เวิร์คช๊อปวาดรูป ทำอาหาร ปั้นดิน เป็นต้น) ทั้งนี้ ความแตกต่างของเวิร์คช๊อป กับคลาสทั่วไปก็คือ ความเข้มข้นของเนื้อหาที่นักเรียนจะได้รับ อาจจะมีการสอนทั้งภาคทฤษฏี และปฏิบัติในเวิร์คช๊อป มีการจับคู่ให้นักเรียนได้ผลัดกันเป็นผู้ฝึกและ spotter (คนช่วยดู ปรับจัดท่า) ส่วนใหญ่ในสายอาชีพนี้ ก็จะมีเวิร์คช๊อปสอนท่ายาก สอนอนาโตมี หรือความรู้ในศาสตร์โยคะที่มีรายละเอียดลงลึก ต้องใช้เวลาอธิบาย กว่าครูโยคะจะมาถึงขั้นนี้ได้ ก็ต้องสะสมประสบการณ์สอนมาพอสมควร และเริ่มเห็นความถนัดของตัวเองแล้วค่ะว่าเราเชี่ยวชาญเรื่องอะไรเป็นพิเศษ
จัดเวิร์คช๊อปออนไลน์ในหัวข้อที่ชำนาญ
4.Stage ที่ 4 การจัดรีทรีต คำว่ารีทรีตในสาย wellness คือการ พักผ่อนท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ และจิตวิญญาณ จะแตกต่างจากการไปเที่ยวทั่วไป ที่ผู้จัดรีทรีตจะมีโปรแกรมวางเอาไว้ให้เลยว่า แต่ละวัน แต่ละเวลาทำกิจกรรมอะไรบ้าง ซึ่งในสายโยคะ รีทรีตก็ต้องมีการฝึกโยคะร่วมด้วย และมีกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ของรีทรีตมาให้ผู้เข้าร่วมทำเช่นกัน ครูโยคะที่จะสามารถจัดรีทรีตของตัวเองได้ ควรมีประสบการณ์ ในการไปเข้าร่วมรีทรีตสาย wellness มาก่อน และ มีความชำนาญในหัวข้อที่อยากจะสอนมากพอสมควร และ ที่สำคัญ คือมีทีมซัพพอร์ต ที่สามารถวางใจ ในการโปรแกรม ดูแลนักเรียน ติดต่อกับ supplier ให้งานออกมาราบรื่นที่สุด
จัดรีทรีตจบการศึกษาให้กับนักเรียนคอร์สครูโยคะ 3 วัน 2 คืน
5.Stage ที่ 5 Signature Program คือการทำคอร์สที่เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะ + สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองออกมา ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ และองค์ความรู้มามากพอสมควรเช่นกัน และถือว่าเป็น High ticket หรือ คอร์สที่มีมูลค่าสูงกว่าคอร์สสอนโยคะทั่วไป ษิอยากบอกว่าคอร์สแบบนี้เปลี่ยนชีวิตครูหลายคนมาแล้ว และนี้คือเหตุผลที่ษิใส่คอร์สนี้เอาไว้ในหลักสูตรครูสอนโยคะ 200 ชม. YTA ของษิ เพื่อวางรากฐานให้นักเรียนครู ได้สั่งสมประสบการณ์ และปลูกต้นกล้าความเชี่ยวชาญตั้งแต่เริ่มออกเดินทางในสายอาชีพนี้เลย ไม่ต้องรอให้พร้อมหรือรอเวลาไปเป็นสิบปีแบบษิ
คอร์สครูโยคะคือ Signature Program ของษิ สุขที่สุดที่ได้สอน ท้าทายที่สุดในชีวิต
6.Stage ที่ 6 การทำ Passive Course หรือการทำคอร์สเรียนแบบ On-demand ที่ทำให้นักเรียนสะดวกมากขึ้น เพราะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา และสถานที่ จะเรียนที่ไหน เวลาไหนก็ได้ ครูหลายคนก็อยากทำแบบนี้ แต่ประสบการณ์ไม่พร้อม ฐานแฟนไม่มากพอ และไม่รู้ว่าต้องทำการตลาดอย่างไร จึงทำคอร์สแบบอัดวีดีโอให้นักเรียน เรียนเองออกมาขายในราคาที่ถูก เน้นปริมาณ ถามว่าผิดไหม ไม่ผิดเลยค่ะ แต่ษิอยากให้ใส่สมการของต้นทุนเรื่องเวลา ความชำนาญ และการลงทุนสั่งสมประสบการณ์ของตัวเองลงไปด้วย ถ้าคอร์สที่ทำสามารถช่วยคนให้แก้ปัญหาที่เขาติดได้จริงๆ การตั้งราคาถูกและหวังกวาดคนให้ได้มากก็ไม่น่าจะใช่ strategy เดียวที่นำมาใช้กับการทำคอร์สออนไลน์แบบเรียนเองขาย แน่นอนว่าครูหลายๆ คนมองว่าการทำคอร์สออนไลน์แบบนี้ขายก็ง่ายดี ทำครั้งเดียวขายได้หลายครั้ง หรือแม้กระทั้งมองว่านี้คือแหล่งรายได้ passive income ที่ใฝ่ฝันเลยก็มี แต่กว่าจะมาถึงขั้นนี้ ครูต้องมีประสบการณ์ที่เข้มข้น เคยสอนเนื้อนี้แบบสดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จนรู้ว่าต้องจัดเนื้อหาให้นักเรียนยังไงถึงจะแก้ปัญหาให้ได้ตรงจุด และอะไรคืออุปสรรคของการเรียนด้วยตัวเอง ถ้าแก้ตามนี้ได้ passive income อย่างที่ฝันไว้ก็ไม่ไกลเกินไปสำหรับครูสอนโยคะจริงๆค่ะ
ษิสั่งสมประสบการณ์มาพอสมควร จนตอนนี้ กำลังจะคลอดคอร์สที่เป็น Signature ในรูปแบบของ Ondemand แล้วค่ะ ตื่นเต้น และท้าทายขีดความสามารถไปอีกขั้น
7.Stage สุดท้าย Balance all offer ครูโยคะท่านไหนที่มาถึงจุดนี้แล้ว อาจจะทำโปรแกรมออกมาหลายๆ โปรแกรม โดยการวางแผนเป็นรายปี ว่าแต่ละเดือนจะจัดโปรแกรมไหนลงบ้าง เช่น ช่วงเดือนที่มีวันหยุดมาก ก็อาจจะจัดทำรีทรีต และช่วงปลายปี อาจจะจัดทำคอร์สเรียนออนไลน์ เพื่อขายเป็น gift voucher ในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ได้ค่ะ ษิมองว่านี้คือการมีหลายได้หลายทาง จากความรู้ในงานสายอาชีพเดียว ที่คุ้มค่ากับการลงแรง ลงทุนเวลา เพื่อให้ได้มาซึ่งอาชีพที่รัก และอาชีพนี้ก็รักเรากลับ ดูแลเราได้ด้วยค่ะ
ทั้งนี้ แต่ละขั้นตอนในสายอาชีพครูสอนโยคะที่ษิเขียนอธิบายให้ฟัง ไม่ใช่กฏตายตัวใดๆ ไม่ต้องยึดถือแบบเอาเป็นเอาตาย หรือถ้าไปเจอครูโยคะท่านไหนแล้วเขาไม่ได้ทำแบบนี้ ก็ไม่ต้องไปว่ากันนะคะ แต่ละคนมีเส้นทางที่แตกต่างกัน ษิเขียนขึ้นมาจากประสบการณ์ที่ได้สังเกตมาในวงการนี้ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่เป็นครูสอนโยคะมา ด้วยความหวังว่า คนที่อยากเป็นครูสอนโยคะเข้ามาอ่าน จะสามารถมองเห็นไอเดีย หรือเห็นความเป็นไปได้ในสายอาชีพนี้ค่ะ
คอร์สครูโยคะ YTA 200 ชม. มาตรฐาน Yoga Alliance USA ไม่ติดเรื่องเวลา และสถานที่ เรียนผ่าน zoom หรือเลือกเรียนด้วยตัวเองได้ สามารถวางแผนแบ่งชำระได้ทั้งแบบโอนเงินและผ่านบัตรเครดิต เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ เอียดกับษิได้โดยตรงที่ไลน์ https://lin.ee/JH6Cfvx
คอร์สโยคะพื้นฐานเพื่อต่อยอดเป็นครูสอนโยคะ YTP 30 ชม. มาตรฐาน Yoga Alliance USA สำหรับคนที่อยากเรียนคอร์สครูโยคะ แต่ไม่มั่นใจในตัวเองว่าพร้อมแล้วหรือยัง มาเอาความรู้ Mindset และการดูแลที่ดีจากทีมครูของษิ ก่อนจะตัดสินใจไปเลือกเรียนคอร์สครูโยคะที่ตอบโจทย์ของตัวเองได้อย่างมั่นใจ ชำระได้ทั้งแบบโอนเงินและผ่านบัตรเครดิต เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ คุยรายละเอียดกับษิได้โดยตรงที่ไลน์ https://lin.ee/jDES3PP
Commentaires